
ถั่วฝักยาว การปลูกและการดูแลรักษา
ถั่วฝักยาว จัดเป็นพืชผักในตระกูลถั่ว ปลูกได้ตลอดปีแต่ปลูกได้ผลที่สุด คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤศจิกายน เป็นผักชนิดหนึ่งที่ชาวเอเซียนิยมบริโภคโดยเฉพาะชาวฮ่องกง และสิงคโปร์ นอกจากตลาดเอเซียแล้ว ตลาดต่างประเทศทางยุโรปซึ่งมีคนเอเซียอพยพเข้าไปอยู่อาศัยเป็นจำ นวนมาก เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมันตะวันตก ตลอดจนประเทศทางแถบตะวันออกกลาง ก็นับว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างจะมีความต้องการสูง จึงนับได้ว่า ถั่วฝักยาวเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่นิยมบริโภคทั้งภายในและนอกประเทศ
ถั่วฝักยาวเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีความสำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย นอกจากจะใช้ปรุงอาหาร บางชนิดใช้บริโภคสด
ในชีวิตประจำ วันแล้ว ยังใช้เป็นวัตถุดิบในด้านอุตสาหกรรมบรรจุกระป๋องและแช่แข็งด้วย

ถั่วฝักยาวมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีนและอินเดีย เป็นพืชตระกูลถั่งที่มีลำ ต้นเป็นเถาเลื้อย การเลื้อยของเถา มีทิศทางการพันทวนเข็มนาฬิกา การปลูกโดยการทำ ค้างจะทำ ให้ผลผลิตสูงขึ้น ถั่วฝักยาวนอกจากจะเป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารแล้ว การปลูกถั่วฝักยาวจะช่วยปรับปรุงบำรุงดินด้วย เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ระบบรากของพืชตระกูลถั่วจะมีการตรึงไนโตรเจน จากอากาศมาไว้ในดิน นับว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์หลายอย่าง
ดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม :
ดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม ถั่วฝักยาวปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศชอบอากาศค่อนข้างร้อน ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในระหว่าง 16-24องศาเซลเซียส สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทราย มีการระบายนํ้าได้ดี สภาพความเป็นกรดด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5-6.0 และเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดตลอดวัน
แหล่งปลูกถั่วฝักยาว :
แหล่งปลูกที่สำ คัญ ได้แก่ ราชบุรี นครปฐม สระบุรี ปทุมธานี อ่างทอง นครนายก นครราชสีมา
หนองคาย อุดรธานี บุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง นครสวรรค์
เชียงใหม่ ลำ ปาง เป็นต้น
พันธุ์ถั่วฝักยาว :
อาจแบ่งพันธุ์ของถั่วฝักยาว โดยอาศัยแหล่งที่มาและอาศัยสีของเมล็ด คือ
ก.แบ่งตามแหล่งที่มาของพันธุ์
1) พันธุ์ของทางราชการ ได้แก่ พันธุ์ ก 2-1A (จากกรมวิชาการเกษตร),พันธุ์ มก.8(จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
2) พันธุ์ของบริษัทเอกชน ได้แก่ พันธุ์ RW 24, พันธุ์สองสี,พันธุ์เขียวดก, พันธุ์กรีนพอท, พันธุ์แอร์โรว์, พันธุ์เอเชียน
นิโกร, พันธุ์เกาชุง เป็นต้น
3) พันธุ์พื้นเมือง ได้แก่ พันธุ์พื้นเมืองของท้องถิ่นต่างๆ เช่น พันธุ์ถั่วด้วง (สระบุรี) พันธุ์ดำ เนิน (ราชบุรี) พันธุ์พื้นเมือง (ตรัง) พันธุ์พื้นเมือง (หนองคาย) เป็นต้น
ข.แบ่งตามลักษณะสีของเมล็ดพันธุ์
1) เมล็ดสีแดง ดอกสีม่วงอ่อนหรือสีม่วง ฝักสีเขียว หรือเขียวเข้ม
2) เมล็ดสีแดงเข้ม ดอกสีม่วง ฝักสีม่วงเข้ม
3) เมล็ดสีขาว ดอกสีครีม ฝักสีเขียวอ่อน
4) เมล็ดสีดำ ดอกสีม่วง ฝักสีเขียวเข้ม
5) เมล็ดสีแดงด่างขาว ดอกสีม่วง ฝักสีเขียว
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้พัฒนาพันธุ์ถั่วพุ่ม ซึ่งให้ฝักที่มีลักษณะเช่นเดียวกับถั่วฝักยาว แต่ไม่ต้องใช้ค้างทนต่อสภาพแห้งแล้ง ได้แก่ พันธุ์ มข. 25

ฤดูปลูก :
ถั่วฝักยาวเป็นผักที่ปลูกได้ทุกฤดูกาลใน เขตร้อน ชอบอากาศค่อนข้างร้อน ฝนไม่ชุก ถ้าอากาศร้อนเกินไปหรือฝนตกชุก จะทำ ให้ดอกร่วงและฝักร่วง ถ้าอากาศหนาวเกินไปจะชะงักการเจริญเติบโต เนื่องจากระบบรากไม่ทำงาน ดังนั้นถั่วฝักยาวมักให้ผลผลิตในช่วงฤดูแล้งสูงกว่าในฤดูฝน แต่ในช่วงฤดูฝนหากมีการดูแลรักษาที่ดี คุณภาพของฝักที่ได้จะสมบูรณ์กว่าในช่วงฤดูร้อน
ดินและการเตรียมดิน :
ถั่วฝักยาวสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด แต่ลักษณะดินที่มีความเหมาะสมใน
การปลูก คือดินร่วนทราย หรือดินร่วนปนทราย และความเป็นกรดและด่างของดิน (pH) มีค่าระหว่าง
5.5-6
การเตรียมดิน ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่มีระบบรากละเอียดอ่อน การเตรียมดินที่ดีจะช่วยให้การ
เจริญเติบโตสมบูรณ์และสมํ่าเสมอ ขั้นตอนแรกให้ไถพรวน ความลึกประมาณ 6-8 นิ้ว ตากดินทิ้งไว้
5-7วัน เพื่อทำ ลายไข่แมลง และศัตรูพืชบางชนิด เก็บเศษวัชพืชออกจากแปลงให้หมด จากนั้นจึงไถคราด ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว เพอื่ ปรบั ปรงุ โครงสร้างของดินให้ดีขึ้น
การยกร่อง สำหรับถั่วฝักยาวนั้น ปกติจะยกร่องกว้างประมาณ 1-1.2 เมตร โดยให้ความยาวเหมาะสมกับสภาพแปลง และเตรียมร่องระหว่างแปลงสำ หรับเข้าไปปฏิบัติงาน กว้างประมาณ 0.5-0.8 เมตร ในสภาพพื้นที่ ที่ไม่เคยมีการวิเคราะห์ดินมาก่อนควรเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำ ไปวิเคราะห์เคมี เพื่อให้ทราบถึงความจำ เป็นและได้ข้อมูลในการปรับปรุงบำรุงดินให้เหมาะสมต่อไป
การปลูกถั่วฝักยาว :
การเตรียมเมล็ดพันธุ์ ปกติในการปลูกถั่วฝักยาวในเนื้อที่ 1 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 3-4 กิโลกรัม นำ เมล็ดพันธุ์ไปทดสอบความงอก คัดเมล็ดที่มีตำ หนิออก และควรคลุกเมล็ดด้วยสารเคมีป้องกันกำ จัดแมลง เพื่อป้องกันแมลง
เข้าทำลายด้วย
การเตรียมหลุมปลูก ให้ใช้จอบขุดหลุมให้ระยะระหว่างแถวห่างกัน 0.8 เมตร ระยะระหว่างหลุม 0.5 เมตร โดยให้หลุมลึกประมาณ 4-6 นิ้ว ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่เหมาะสมกับถั่วฝักยาว เช่น 15-15-15, 13-13-21,12-24-12, 5-10-5 หรือ 6-12-12 ใส่หลุมละ 1/2 ช้อนแกง (10-15 กรัม) คลุกเคล้าให้เข้ากัน
การปลูกโดยหยอดเมล็ด หยอดหลุมละ 4 เมล็ดแล้วกลบดินให้ลึกประมาณ 5 เซนติเมตรแล้วรดน้ำทันที สำหรับการให้น้ำ ระยะ 1-7 วัน ควรใหน้ำทุกวันๆ ละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ให้พิจารณาสภาพภูมิอากาศ และสภาพดิน
ด้วย
การถอนแยก หลังจากหยอดเมล็ดแล้วประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก เมื่อมีใบจริงประมาณ 4 ใบ ให้
ถอนแยกเหลือต้นแข็งแรงไว้ 2 ต้นต่อหลุม ขณะที่ถอนแยกให้พรวนดินและกำ จัดวัชพืช เพื่อไม่ให้วัชพืช
มาแย่งนํ้า และอาหารจากถั่วฝักยาว
การดูแลรักษา ถั่วฝักยาว เป็นพืชที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด การดูแลรักษาที่ดีจะมีผลต่อปริมาณ
และคุณภาพของผลผลิตอย่างมาก ขั้นตอนต่างๆ ของการดูแลรักษานั้น ต้องมีการให้นํ้าสม่ำเสมอ ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ให้นํ้าอย่างสมํ่าเสมอ แต่ไม่ควรแฉะเกินไป ระยะเจริญเติบโตหลังจาก ถอนแยกแล้วควรให้นํ้าทุก 3-5 วันต่อ
ครั้ง ให้ตรวจสอบความชื้นในดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตระบบการให้นํ้าอาจใช้วิธีการใส่นํ้าเข้าตามร่อง หรืออาจจะใช้วิธีการตักรดโดยตรง ขึ้นอยู่กับแหล่งนํ้าที่มีสภาพพื้นที่ปลูกและความชำนาญของผู้ปลูก

การใส่ปุ๋ย ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ต้องการธาตุฟอสฟอรัสสูงในการสร้างดอก ในทางวิชาการแนะนำ ให้ใช้ปุ๋ยอัตราส่วนของไนโตรเจน (N)ฟอสฟอรัส (P2O5) และโปรแตสเซียม (K2O) คือ 1:1.5-2:1 ปุ๋ยสูตรดังกล่าวไม่มีจำ หน่ายในท้องถิ่น อาจใช้สูตร 15-15-15 ซึ่งใช้ในสภาพดินที่เป็นดินเหนียว หรือ สูตร13-13-21 ในสภาพดินที่เป็นดินทราย สำ หรับการใส่นั้นควรแบ่งใส่ดังนี้ คือ
ก. ใส่ขณะที่เตรียมหลุมปลูกตามที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น
ข. ใส่เมื่อต้นถั่วอายุประมาณ 15 วัน โดยการพรวนดินแล้วโรยปุ๋ยรอบๆ ต้นให้ห่างจากโคนต้นประมาณ 10 เซนติเมตร ในอัตรา 1 ช้อนแกง (25-30 กรัม) ต่อหลุมแล้วใช้ดินกลบเพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยสูญเสียไป การใส่ปุ๋ยร่วมกับปุ๋ยคอกในระยะนี้ จะทำ ให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ค. ใส่เมื่อเก็บผลครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 55 วัน โดยใส่ปุ๋ยประมาณ 2 ช้อนแกงต่อต้น และ
หลังจากนั้นให้ใส่ปุ๋ยทุก ๆ 7-10 วัน การใส่ปุ๋ยระหว่างช่วงเก็บเกี่ยวอย่างสมํ่าเสมอ และปริมาณพอจะ
ทำ ให้เก็บถั่วฝักยาวได้นาน โดยผลผลิตมีคุณภาพดี และปริมาณผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น
การกำจัดวัชพืช หลังจากถั่วฝักยาวงอกแล้ว ต้องคอยดูแลวัชพืชในแปลงปลูก โดยทั่วไปแล้วจะกำ จัดวัชพืช หลัง
จากเมล็ดงอกแล้วประมาณ 10-15 วัน หรือก่อนที่จะปักค้างหลังจากนั้นจึงคอยสังเกตจำ นวนวัชพืชในแปลง หากพบวัชพืชควรกำ จัด และเมื่อต้นถั่วเจริญเติบโตคลุมแปลงแล้วจะทำ ให้การแข่งขันของวัชพืชลดลง ในการกำ จัดวัชพืชในระยะที่ถั่วฝักยาวเริ่มออกดอกนั้น ต้องเพิ่มควรระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากการกำ จัดวัชพืชอาจกระทบกระเทือนรากอันเป็นสาเหตุให้ดอกร่วงได้

ศัตรูถั่วฝักยาว :
แมลงศัตรูถั่วฝักยาว พบว่าถั่วฝักยาวมีแมลงศัตรูที่สำ คัญ หลายชนิด ได้แก่
1.หนอนแมลงวันเจาะต้นถั่ว หนอนชนิดนี้จะเข้าทำ ลายต้นถั่วตั้งแต่ถั่วฝักยาวเริ่มงอกทำ ให้ใบเหี่ยวเฉาแห้งตาย นับเป็นแมลงศัตรูที่สำ คัญตัวหนึ่งลักษณะเป็นแมลงวันขนาดเล็กสีดำ ลำ ตัวยาว 0.2-0.3 เซนติเมตร ในขณะที่แดดจัดจะพบบริเวณใบอ่อนเมื่อทำ ลายแล้วจะเกิดจุดสีเหลืองซีด ถ้าระบาดมากใบจะแห้ง ตัวแก่จะวางไข่บริเวณข้อและยอดอ่อน ตัวหนอนเล็กรูปร่างรีสีขาว ลักษณะที่หนอนทำลายจะเกิดรอยแตก ใบร่วง และเฉาเหี่ยวตายไปในที่สุด
การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมีป้องกันกำ จัดแมลงศัตรูพืชพวกคาร์โบฟูราน (carbofuran) เช่น ฟูราดาน หรือคูราแทร์ รองก้นหลุมอัตรา 2 กรัม/หลุม ซึ่งจะมีผลควบคุมแมลงศัตรูได้ประมาณ1 เดือน สารเคมีประเภทนี้ควรใช้เฉพาะการหยอด รองก้อนหลุมพร้อมเมล็ดเท่านั้น ไม่ควรหยอดเพิ่ม ระยะหลังเพราะอาจมีพิษตกค้างในผลผลิตได้ หากไม่ได้ใช้วิธีการข้างต้นให้ป้องกันโดยใช้สารเคมีกำจัดแมลงพวกไดเมทโธเอท (dimethoate) หรือพวกโมโนโครโตฟอส
(monocrotophos) ฉีดพ่นทุก 5-7 วัน โดยใช้อัตรา 3-4ช้อนแกงต่อนํ้า 20 ลิตร หรือใช้ตามฉลากคำ
แนะนำ จนถั่วใกล้ออกดอก
2.หนอนเจาะฝักถั่ว เป็นหนอนที่ทำ ลายถั่วหลายชนิด หนอนในระยะแรกจะกัดกินภายในดอก ทำ ให้ดอกร่วงก่อนติดฝัก เมื่อหนอนโตขึ้นจะเจาะเข้าไปกัดกินภายในดอก ทำให้เกิดดอกร่วงก่อนติดฝัก ทำให้เกิดความเสียหาย ในลักษณะของแมลงศัตรูตัวแก่เป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดเล็ก วางไข่ขนาดเล็ก (0.5-0.81 มิลลิเมตร)ตามกลีบเลี้ยง อายุฟักไข่ประมาณ 3 วัน แล้วจึงเข้าไประหว่างรอยต่อของกลีบดอก และเมื่อเจริญขึ้นหนอนจะเข้าไปทำ ลายดอกและฝักถั่วฝักยาว
การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมีป้องกันกำ จัดแมลงที่มีฤทธิ์ตกค้างสั้น พวกเฟนวาเลอเรท (fenvalerate) ได้แก่ ซูมิไซดิน, ซูมิ 35 หรือไซเปอร์เมทริน (cypermethrin) ได้แก่ ซิมบุซ เป็นต้น หรือสารเคมีกลุ่มอื่นทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคด้วย
3. เพลี้ยอ่อน มักเข้าทำ ลายยอดอ่อนและฝักของถั่วฝักยาว โดยดูดกินนํ้าเลี้ยงทำ ให้ต้นแกร็น ดอกร่วง ไม่ติดฝัก และหากฝักอ่อนถูกดูดกินนํ้าเลี้ยงจะทำ ให้ได้ฝักขนาดเล็กลง
การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมีพวกเมทามิโดฟอส (methamidophos)เช่น ทามารอน โซนาต้า มอลต้า โมนิเตอร์ เอฟ 5 เป็นต้น ฉีดพ่นในอัตราที่กำ หนดไว้ในฉลากคู่มือการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลง

โรคถั่วฝักยาว :
โรคถั่วฝักยาวนั้นแม้ว่าจะไม่แสดงอาการของโรคให้เห็นทันทีหลังจากเชื้อโรคเข้าทำ ลาย หากแต่การทำ ลายของโรคพืชนั้น สร้างความรุนแรง และความเสียหายได้มาก แก้ไขได้ยากกว่าการทำ ลายของแมลงศัตรูพืช โรคของถั่วฝักยาวที่สำคัญ ได้แก่
1.โรคใบจุด
ลักษณะอาการ ถั่วฝักยาวมีโรคใบจุดชนิดหนึ่งทำ ให้เนื้อเยื่อแผลแห้งเป็นวงกลมหรือเกือบจะกลม สีนํ้าตาลตรงกลางแผล มีจุดไข่ปลาสีดำ เล็ก ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มของเชื้อราที่ขึ้นเป็นกระจุก และเรียงเป็นวงกลมซ้อนกันมองเห็นชัดด้วยตาเปล่า ทำ ให้มองเห็นแผลเป็นวงกลมซ้อนกันหลายชั้นขนาดของแผลประมาณ 1-2 เซนติเมตร มักจะเกิดกับใบแก่ที่อยู่ตอนล่างๆ
สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อรา Cercospora sp.
การป้องกันกำจัด ควรพ่นสารป้องกันกำ จัดเชื้อราเมื่อพบโรคนี้ โดยใช้สารไดเทนเอ็ม 45 เดอโรซานบาวิสติน หรือ
เบนเลท อย่างใดอย่างหนึ่ง อัตราตามข้างฉลากฉีดพ่นทุก 5-7 วัน
2. โรคราสนิม
ลักษณะอาการ อาการปรากฎด้านใต้ใบเป็นจุดสีสนิม หรือนํ้าตาลแดง จุดมีขนาดเล็ก ใบที่เป็นโรคมาก จะมองเห็นเป็นผงสีนํ้าตาลแดง โรคนี้มักจะเกิดกับใบแก่ทางตอนล่างของลำ ต้นก่อน แล้วลามขึ้นด้านบน มักจะเริ่มพบเมื่อต้นถั่วอยู่ในระยะออกดอก ถ้าเป็นรุนแรงมากจะทำ ให้ใบแห้งร่วงหล่นไป
สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อรา Uromyces fabae Pers
การป้องกันกำจัด ใช้กำมะถันผงชนิดละลายนํ้าอัตรา 30-40 กรัม/นํ้า 20 ลิตร พ่นสัปดาห์ละครั้ง ไม่ควรใช้
ในขณะที่แดดร้อนจัด และห้ามผสมสารเคมีชนิดอื่น ใช้สารเคมีแพลนท์แวกซ์ (plantvax) อัตรา 10-20 กรัมนํ้า 20 ลิตร
3. โรคราแป้ง
ลักษณะอาการ อาการมองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า บนใบมองเห็นคล้ายมีผงแป้งจับอยู่ ถ้าอาการไม่มากนัก
ผงแป้งนี้จะเกาะอยู่บนใบเป็นกลุ่ม ๆ แต่ถ้าเป็นมากจะเห็นผิวใบถูกเคลือบอยู่ด้วยผงแป้งเหล่านี้ อาการที่รุนแรงจะทำ ให้ใบเหลืองและร่วง โรคนี้มักจะไม่ทำ ให้ต้นตายอย่างรวดเร็วกว่าปกติ
สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อรา Oidium sp.
การป้องกันกำจัด ใช้กำมะถันผงเหมือนกับโรคราสนิมใช้คาราเทนหรือซาพรอน อัตราตามคำ แนะนำ ที่ฉลาก ฉีด
พ่น 7-10 วัน
4.โรคใบด่าง
ลักษณะอาการ ถั่วจะแสดงอาการใบด่างเหลืองมากน้อยแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม อาการจะมองเห็นได้ชัดเจนบนใบแก่เป็นสีเขียวเข้มสลับกับสีเหลือง หรือด่างเป็นลาย บางครั้งสีเหลืองอ่อนเกือบเป็นสีขาวสลับกับสีเขียวแก่ของใบ มีทั้งชนิดลายแล้วใบเป็นคลื่นและด่างลายใบเรียบ ใบอาจจะม้วนงอหรือแผ่ตามปกติ ในกรณีที่เป็นโรคอย่าง
รุนแรง โดยเฉพาะในระยะต้นอ่อนและตายในที่สุดสาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม PVY
การป้องกันกำจัดเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่ปราศจากโรค โดยการเลือกเก็บจากต้นที่ปราศจากโรคใบด่างถอนต้นที่มีอาการของโรคทำลายเผาทิ้งใช้สารเคมีป้องกันกำ จัดแมลงฉีดพ่นแมลงพาหะ

การตัดแต่งฝัก :
ควรมีการตัดแต่งฝักที่อยู่ระดับล่างออกบ้าง เพื่อมิให้ต้นถั่วฝักยาวโทรมก่อนถึงอายุการเก็บเกี่ยว
จริง และทำ ให้ฝักที่อยู่ส่วนยอดเต่งงามไม่ลีบ โดยเฉพาะเมื่อปลูกในฤดูฝน จะเป็นการช่วยไม่ให้ฝักนอน
อยู่บนผิวดิน ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย และลดปัญหาเมล็ดแก่งอกในฝัก
การเก็บเกี่ยว ถั่วฝักยาว :
ถั่วฝักยาวจะเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูกประมาณ 55-75 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง การเก็บนั้นอาจจะสังเกตจากลักษณะฝักที่ตรงตามความต้องการของตลาด หรืออาจจะนับวันโดยเริ่มจากวันผสมเกสรซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณ 10-15 วัน วิธีการเก็บให้ปลิดขั้ว ระวังไม่ให้ดอกใหม่หลุดเสียหาย เพราะจะกระทบกระเทือนต่อปริมาณ
ผลผลิต :
ลักษณะการเก็บให้ทยอยเก็บทุก ๆ 2-4 วัน โดยไม่ปล่อยให้ฝักแก่ตกค้าง ปกติแล้วระยะเวลาการให้ผลผลิตของถั่ว
ฝักยาวอยู่ในช่วง 1-2 เดือน หรืออาจเก็บได้ 20-40 ครั้งขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสายพันธุ์ที่ปลูกขณะนั้น หลังจากเก็บเกี่ยวถั่วฝักยาวแล้วให้นำ เข้าร่มทันที ไม่ควรวางไว้กลางแดด แล้วนำ ลงบรรจุในภาชนะ เช่น ตะกร้า หรือเข่งซึ่งบุด้วยวัสดุที่ป้องกันการขูดขีดผลผลิต ได้แก่ ใบตอง หรือวัสดุอื่นๆ ที่ใช้ทดแทนกันได้ การบรรจุนั้นไม่ควรบรรจุปริมาณมากเกินไป เพราะจะทำให้ผลผลิตบอบชํ้าเสียหายได้
ลักษณะ ถั่วฝักยาว ที่ตลาดต้องการ แบ่งได้ดังนี้
1) ความต้องการของตลาดในประเทศ ต้องการถั่วฝักยาวที่มีความยาว ฝัก 50-70 เซนติเมตร สีเปลือกเขียวฝักไม่พอง แต่ความต้องการในแต่ละท้องถิ่นนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความนิยมของผู้บริโภค และลักษณะการ
ประกอบอาหารของแต่ละแหล่งด้วย
2) ความต้องการของตลาดต่างประเทศ ต้องการถั่วฝักยาวที่มีความยาวฝักประมาณ 36-40 เซนติเมตร
ขนาดสมํ่าเสมอ สดไม่บอบชํ้า เก็บอ่อนกว่าปกติ1-2 วัน
การเก็บเมล็ดไว้ทำพันธุ์ :
ไม่ควรปล่อยให้ฝักของถั่วฝักยาวแห้งคาต้น พอฝักเริ่มเหลืองและพองตัวก็สามารถเก็บมาแกะเมล็ดนำ ออกตาก เพื่อเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไปถ้าปลูกในฤดูฝน การเก็บเมล็ดพันธุ์จะยุ่งยากพอสมควรเพราะถ้าปล่อยให้แก่คาต้น เมล็ดในฝักจะงอกหรือเกิดเชื้อราทำลายเมล็ด ฉะนั้นควรระมัดระวัง และดูจังหวะเวลาเก็บเกี่ยวให้ดี

ที่มา : เอกสารคำ แนะนำ ที่ 167 การปลูกถั่วฝักยาว กรมส่งเสริมการเกษตร