การปลูกแตงกวา คัมภีร์วิถีแตงกวา ปลูกแล้วสำเร็จ Success ทุกกรณี

Big Dataมีบทบาทความจำเป็นมากในการนำมาใช้ช่วยทำการตลาด ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย ซึ่งมีหลายบริษัทเปิดให้บริการด้านการดูแล วิเคราะห์ข้อมูล โดยผู้ประกอบการอาจมีหน้าที่เพียงแค่อ่านรายงานและหาช่องทางการตลาด ทำการพัฒนาสินค้าหรือบริการของตัวเองตามข้อมูลที่ได้รับมาโดยไม่ต้องลงลึกเรื่องความรู้ระดับ IT
Big Datagป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่นำมาใช้วิเคราะห์ประมวลผลสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่ถูกพูดถึงมานานหลายปี ซึ่งเริ่มมีการนำมาใช้ได้จริงจังบ้างแล้ว ในการนำเสนอแอดของ google , Facebook, Lazada และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ
โดยประมวลผลจากพฤติกรรมการใช้งานดังจะเห็นได้จาก ถ้าหากเรามีการเข้าไปสืบค้นหาข้อมูลสินค้าอะไรบางอย่างใน google แล้วมาใช้งาน Facebook ตามปกติ ก็จะพบว่าหน้าฟีดหรือช่องทางการนำเสนอโฆษณาของ Facebook นั้นจะมีแต่เรื่องของสินค้าชนิดนั้นๆ ที่เราเคยเข้าไปสืบค้นข้อมูล หรือแม้แต่การเข้าไปหาสินค้าใน Lazada แล้วดูค้างไว้แล้วออกมา ยังไม่ทำการตัดสินใจซื้อ ต่อเมื่อเข้าไปในแพลตฟอร์มนั้นอีกครั้ง เราก็จะเห็นว่ามีการนำเสนอขายสินค้าที่เราเคยสนใจและกลุ่มสินค้าชนิดเดียวกัน ในแอดโฆษณาเสนอขายที่ตามติดเหมือนเงา จนทำให้ต้องเผลอคลิ๊กเข้าไปดูสินค้าอื่นๆ ที่เขาเสนอมาทุกที นี่จึงเป็นระบบการนำเสนอโฆษณาที่มาจากความต้องการหรือพฤติกรรมผู้บริโภคโดยตรง และเป็นเรื่องBig Data ที่นำมาช่วยทำการตลาดได้ดีจนผู้ประกอบการต่างให้ความสำคัญ
แม้ว่า Big Data ะเป็นชุดข้อมูลขนาดใหญ่มาก ชนิดที่ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ธรรมดาไม่สามารถจะจัดเก็บหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในการจัดเก็บข้อมูลนั้นจะมีทั้งชุดข้อมูลภายนอกและภายในองค์กร มีองค์ประกอบทั้งด้านความเร็ว (velocity) ความหลากหลาย(Variety) ทั้งในรูปของโครงสร้างตาราง ข้อความยาวๆ รูปภาพ วิดีโอ ช่วงเวลา ฯลฯ และปริมาณ (Volume)
การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบเดิมจึงไม่เพียงพอ มันจึงถูกเรียกขานว่า Big Data
ที่เป็นภารกิจให้เจ้าของธุรกิจต้องนำชุดข้อมูลที่ได้ มาทำให้เกิดมูลค่าทางการตลาด จากการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น พฤติกรรมของคนๆ หนึ่งเป็นอย่างไร หรือลูกค้าที่ใช้สินค้าที่วางจำหน่ายนั้นมีกี่ประเภท เพื่อนำเสนอขายสินค้า บริการ หรือแม้ผลิตสินค้าขึ้นมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงนำมาใช้วางแผนการทำงานภายในองค์ได้ด้วย ซึ่งข้อมูลที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ตลาดได้จะต้องผ่านการแยกย่อย กรุ๊ป หมู่ เหล่า ประเภท ฯลฯ ก่อนจึงสามารถนำมาอ่านค่าวิเคราะห์ตีความหรือทำให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการได้ ทั้งนี้ มีการวิจัยรอรับว่าข้อมูลที่มีการนำมาวิเคราะห์ จะช่วยให้เกิดผลประกอบการที่ดีขึ้นหรือทำให้มีผลประกอบการที่ตีตลอดปีได้
เหตุผลที่การทำธุรกิจต้องพึ่ง Big Data :
1.ช่วยในเรื่องการทำตลาด
ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวสินค้าที่จำหน่าย ในแต่ละล็อต แบบ สี หรือแม้แต่ยอดขายที่ขายดีในแต่ละช่วงเวลามาคิดวิเคราะห์จะทำให้ทราบว่าเทรนด์ไหนกำลังมา สินค้าที่ขายได้ดีเกิดจากอะไร ทำไมสินค้าชิ้นหนึ่งโดนใจผู้บริโภค หรือ อีกชนิดไม่เป็นที่ต้องการ ซึ่งฐานข้อมูลที่ได้จากตัวสินค้าของตัวเองนี่ล่ะ ที่จะทำให้เกิดลู่ทางการตลาด ทำให้สามารถสร้างสินค้าขึ้นมาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงการเพิ่มยอดขายทำกำไรได้อีกด้วย
2. สนอง Need ผู้บริโภคได้ตรงจุด มีความเข้าใจลูกค้ามากขึ้น
Big Data คือตัวช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นอนาคต ในการทำงานหรือทำตลาดของตัวเองได้ จากการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคมาวิเคราะห์ จะทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการที่มี ทำให้ลงลึกได้ถึงระดับความต้องการของผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริงว่า ชอบสินค้าแบบไหน สีอะไรมีผลต่อความรู้สึก ทำให้รู้ว่าต้องขายอะไรช่วงไหน กับคนประเภทใดอะไรเหมาะสม
3. ช่วยวิจัยตลาด จับกระแส และทิศทางต่างๆ ได้
เมื่อมีชุดข้อมูลในมือก็จะสามารคาดการณ์ถึงกระแสหรือทิศทางการตลาดที่กลังจะมาถึงในอนาคตได้ โดยอาจวิเคราะห์จากพฤติกรรมการแชร์ผ่านสื่อโซเชียล หรือแม้แต่ว่าสินค้าตัวไหนขายดี เพื่อวางแผนออกแบบเตรียมกำลังการผลิตและเงินทุนต่างๆ ไว้รองรับกระแสความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที ทีนี้น้ำขึ้นเท่าไหร่ ก็ตักตวงได้มากเท่านั้น
4. ช่วยประหยัดต้นทุน ลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
การใช้ข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์ตลาดหรือแม้แต่ออกแบบผลิตภัณฑ์ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการต้องออกตระเวนสำรวจตลาดจากลูกค้าเหมือนในอดีต เป็นการหยิบข้อมูลที่เลือกเก็บไว้ในฐานระบบขึ้นมาต่อยอด ในการลงทุนขยายลู่ทางการทำธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้ตรงจุด จึงช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากการลงทุนผิดจุด หรือทำสินค้าไม่ตอบโจทย์ตลาดลงไปได้ นอกจากนี้ชุดข้อมูลดังกล่าวยังสามารถนำมาใช้ออกแบบระบบโครงสร้างการทำงานภายในองค์กรในขั้นตอนการผลิตได้ด้วย
5. ช่วยควบคุมเรื่องชื่อเสียงและพัฒนาสินค้าหรือบริการ
เรื่องของข้อมูล Big Data นั้นไม่ใช่เป็นเพียงชุดข้อมูลที่มีเก็บไว้ในระบบเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงข้อมูลที่ได้จากการสะท้อนกลับของกลุ่มคนในสังคม เช่น การตำหนิ ติชม หรือ การมีส่วนร่วม ปฏิสัมพันธ์กับสินค้าหรือบริการผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเข้าไปด้วย ซึ่งกลุ่มข้อมูลชุดนี้จะทำให้เห็นจุดเด่น จุดด้อยของสินค้าหรือบริการที่มี และเป็นช่องทางที่ช่วยในการสำรวจตลาดด้านชื่อเสียงความสำเร็จของสินค้าและบริการได้ด้วยว่าเป็นไปในแนวทางไหน หากมีชื่อเสียงด้านบวกมาก ก็คงคุณภาพในแบบที่ผู้คนพึงใจเอาไว้ได้แต่ถ้ามีชื่อเสียงด้านลบก็นำมาปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs อาจมองว่านี่เป็นเรื่องเทคโนโลยีที่ตัวเองบริหารจัดการได้ยาก แต่Big Dataมีบทบาทความจำเป็นมากในการนำมาใช้ช่วยทำการตลาด ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย
ซึ่งมีหลายบริษัทเปิดให้บริการด้านการดูแล วิเคราะห์ข้อมูล โดยผู้ประกอบการอาจมีหน้าที่เพียงแค่อ่านรายงานและหาช่องทางการตลาด ทำการพัฒนาสินค้าหรือบริการของตัวเองตามข้อมูลที่ได้รับมาโดยไม่ต้องลงลึกเรื่องความรู้ระดับ IT หรือถ้ายังมีงบประมาณและกำลังคนไม่มาก ก็สามารถจัดเก็บแบบระบบแมนนวลเอาไว้เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การใช้บริการอย่างจริงจังในอนาคต เพราะ Big Data นี้กลายมาเป็นตัวช่วยสร้างความหวังในการบุกตลาด ขโมยใจลูกค้า เอาชนะคู่แข่งในการทำธุรกิจที่เห็นผลลัพธ์ได้ดีเหมือนดังที่ยกตัวอย่างเรื่องการนำเสนอขายโฆษณาบน Lazada หรือ google เมื่อต้นบทความไปแล้วนั่นเอง.
เขียน/เรียบเรียงโดย : Admin มินยดา
——————————
แหล่งอ้างอิง :