การปลูกแตงกวา คัมภีร์วิถีแตงกวา ปลูกแล้วสำเร็จ Success ทุกกรณี

ข้าวหอมกัมพูชา คว้ารางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลก ปี 2022 ล้มแชมป์ ข้าวหอมมะลิไทยจากความหอมที่ได้หลังหุงข้าวแล้ว
ในการประชุมข้าวโลก ประจำปี 2022 (The World’s Best Rice 2022) จัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการประกวดสายพันธุ์ข้าวจาก 9 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ลาว อินเดีย ปากีสถาน จีน และสหรัฐฯผลการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่า ข้าวหอมมะลิผกาลำดวน (Phka Rumduol) จากกัมพูชา ได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกไปครอง ส่วนข้าวหอมมะลิ 105 ไทยเสียแชมป์ เป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 คือ ข้าวหอมจากเวียดนาม
สำหรับพันธุ์ข้าวหอมผกาลำดวนกัมพูชา ได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 5 ในการประชุมข้าวโลก TRT (The Rice Trader) เป็นข้าวหอมมะลิเมล็ดยาวพันธุ์หนึ่งที่กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ซื้อจากต่างประเทศ และเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่ส่งออกภายใต้เครื่องหมายรับรอง อังกอร์ มะลิ (Angkor Malys) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาการเกษตรของกัมพูชาได้แจกจ่ายพันธุ์นี้ให้เกษตรกรใช้ปลูกในปี 2542 หลังจากพัฒนาและทดลองมา 10 ปี
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เท่าที่ได้มีการพูดคุยกับกรรมการผู้ตัดสินที่เป็นเชฟชาวสหรัฐฯ ระบุว่า ข้าวหอมมะลิไทยแพ้ข้าวกัมพูชาเพียงนิดเดียวที่กลิ่นหอม โดยตัวคุณภาพข้าวและรสชาติมีคุณภาพดีเหมือนกัน แต่จะแพ้ตอนที่กำลังหุง ข้าวหอมมะลิของกัมพูชาจะมีกลิ่นมากกว่า ขณะที่กลิ่นของข้าวหอมไทยออกมาน้อย
โดยปีนี้ไทยได้คัดเลือกข้าวที่ดีที่สุด ในนามสมาคมส่งไปประกวดแค่ 1 ตัวอย่าง จากข้าวที่ส่งประกวดทั้งหมด 20 ตัวอย่าง มีทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว อินเดีย ปากีสถาน สหรัฐฯ จีน โดยข้าวไทยแพ้กัมพูชาไปแค่ 1 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นข้าวจากเวียดนาม และอันดับ 4 ข้าวหอมมะลิจากสปป.ลาว
“ปีนี้แปลกมากว่าทำไมข้าวหอมมะลิของไทยไม่ค่อยหอม ซึ่งก็ยอมรับว่าข้าวไทยไม่ค่อยหอมจริง เพราะจากการไปสำรวจข้าวที่จังหวัดอุบลราชธานี ทดลองเอาข้าวหอมมะลิใหม่มาลองหุง ก็ไม่มีกลิ่นหอมเท่าไร ยิ่งตอนหุงไม่มีกลิ่นเลย หลายคนก็พูดว่าปีนี้ข้าวไม่ค่อยหอม อาจจะน้ำเยอะไป ฝนตก กลิ่นหอมหายหมด แต่ปีหน้าสมาคมฯ ตั้งใจจะส่งข้าวเข้าไปประกวดเพื่อทวงแชมป์คืน” นายชูเกียรติ กล่าว
อย่างไรก็ตามการเสียแชมป์ข้าวโลกครั้งนี้ เป็นสัญญาเตือนว่าไทยจะต้องกลับมาให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างจริงจัง เช่น จะทำอย่างไรให้มีกลิ่นหอม มีรสชาติดีกว่าเดิม เพราะเข้าใจว่าข้าวของกัมพูชาจะเน้นใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาก แต่ข้าวไทยใช้ปุ๋ยเคมีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาว ขณะเดียวกัน อยากให้รัฐบาลหันมาพัฒนาพันธุ์ข้าวไทยอย่างมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลทุกชุด จะเน้นดูแลแค่เรื่องราคา เช่น โครงการประกันรายได้ โครงการจำนำข้าว ใช้เงินไปนับแสนล้านบาท แต่ไม่ส่งผลดีต่อระยะยาวต่อสายพันธุ์ข้าวเลย
คงต้องจับตามองว่า ไทยจะพัฒนาอย่างไร เพราะตอนนี้ข้าวหอมกัมพูชาถูกกว่าไทยมาก ทำให้การแข่งขันตลาดข้าวหอมน่าจะรุนแรง ไทยอาจต้องลดราคาลงแข่ง เพราะปัจจุบันข้าวผกาลำดวน 720 เหรียญสหรัฐต่อตัน ผลผลิตไม่น่าเกิน 1.5 ล้านตัน ขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยอยู่ที่ 750 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ส่วนในอนาคตข้าวหอมมะลิของเพื่อนบ้าน จะพัฒนามาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทยได้ทั้งหมด อย่างสปป.ลาว ปีนี้ส่งแข่งและได้ถึงที่ 4 ซึ่งเตือนว่าไทยต้องพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง ให้มีพันธุ์ข้าวที่ดีขึ้น รวมถึงดูแลต้นทุนผลิตให้ลดลง และผลผลิตต่อไร่ต้องมีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลาย เช่น สายพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม ที่เวียดนามกำลังครองตลาดเอเชียอยู่ เพราะตอนนี้ชาวเอเชียชอบข้าวขาวพื้นนุ่มมากทั้งในจีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สมาคมพยายามผลักดันให้รัฐมาสนใจ แต่รัฐบาลจะสนใจแต่เรื่องราคาเป็นหลัก
สำหรับภาพรวมการส่งออกข้าวไทยปี 2565 น่าจะทำได้ถึง 7.5 ล้านตัน ส่วนปีหน้าน่าจะแตะ 8 ล้านตัน เพราะปีนี้ผลผลิตมีมาก น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ นาปรังไม่มีปัญหา ส่งผลให้มีผลผลิตออกมามาก อีกทั้งค่าเงินบาทไม่แข็งค่าเกินไปอยู่ที่ 35-36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้ข้าวไทยราคาไม่ห่างจากคู่แข่งมากนักเมื่อเทียบกับอดีต โดยปัจจุบันข้าวไทยประมาณ 410-450 เหรียญสหรัฐต่อตัน ข้าวเวียดนาม 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน และข้าวอินเดีย 390 เหรียญสหรัฐต่อตัน.